ถ้าให้พูดถึงไอค่อนของเด็กสาวทั่วเอเชียคงจะขาดชื่อของ Mizuhara Kiko นางแบบสาวจากญี่ปุ่นคนนี้ไม่ได้ เธอได้ก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบอันดับต้นๆของเอเชียด้วยใบหน้าและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่เพียงแค่การเป็นนางแบบแต่คิโกะก็ยังมีผลงานการแสดงให้แฟนๆได้ชมไม่ว่าจะเป็นภาพยนต์เรื่องแรกของเธออย่าง Norwegian wood หรือ Attack on Titan ที่ทำให้ชื่อเสียงของเธอก็ไม่ได้หยุดแค่ในเอเชีย ซึ่งล่าสุดเธอได้เป็นนางเอกมิวสิควีดีโอให้กับ The Weeknd อีกด้วย

ต้องบอกว่าเธอกำลังฮอตงานรัดตัวสุดๆ แต่เรามีโอกาสได้ไปพูดคุยกับเธอแบบ Exclusive! ระหว่างที่เธอมาร่วมงานเปิดตัวของศูนย์การค้า Central Embassy ในฐานะพรีเซนเตอร์ของแคมเปญ This brings me here ด้วย ต้องบอกว่าตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์ก็ทำให้เราเข้าใจได้เลยว่าทำไมใครๆต่างก็รักเธอ

Kiko: Model Actress

อาชีพนางแบบดูเหมือนจะเป็นความฝันของเธอมาตลอด คิโกะเล่าให้เราฟังว่าตอนอายุ 13 ปีคุณแม่ของเธอได้ส่งโปรไฟล์ของเธอเพื่อสมัครเป็นนางแบบให้นิตยสารชื่อดังชอบหนึ่งในญี่ปุ่น และนั้นเป็นจุดเริ่มต้นการทำงานของเธอในฐานะนางแบบอาชีพ ชื่อเสียงของคิโกะในฐานะนางแบบวัยรุ่นที่ญี่ปุ่นโด่งดังมากๆ ซึ่งเธอก็ไม่ต่างจากเด็กสาวหลายๆคนที่มีความฝันอยากโกอินเตอร์ หลังจากที่ทำงานในญี่ปุ่นได้เกือบ 4 ปี เธอตัดสินใจตามความฝันโดยการไปแคสงานที่ปารีส

“ตอนนั้นนางแบบทุกคนต้องสูงมาก แต่ฉันไม่ใช่คนสูงมากและด้วยระยะเวลาในการไปแคสแค่ 2 สัปดาห์มันไม่เพียงพอจึงยังไม่ได้การตอบรับจากที่นั้น” ดูเหมือนเส้นทางอาชีพของคิโกะจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่นั้นก็ถือว่าเป็นโชคชะตาที่ทำให้เธอได้มีโอกาสก้าวเข้ามาสู่วงการนักแสดงในบทของ Midori จากภาพยนต์ Norwegian Wood

Kiko: Playful Vintage Music

จะบอกว่าบทบาท Midori เปลี่ยนชีวิตเธอก็ได้ เพราะหลังจากนั้นชื่อเสียงของคิโกะก็พุ่งขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ ซึ่งเป็นเรื่องดีเพราะผลงานการแสดงทำให้เราได้เห็นตัวตนของเธอมากกว่าภาพลักษณ์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านนิตยาสาร “คนมักคิดว่าฉันเป็นคน Cool แต่ฉันก็ไม่รู้นะว่า Cool นี้มันเป็นยังไง (หัวเราะ) บางทีอาจเป็นเพราะงานถ่ายแบบทำให้ฉันดูเหมือนไม่ค่อยยิ้ม ดูเป็นคนเท่ๆมากกว่าคนที่สดใส” คิโกะให้คำนิยามตนเองกับเราว่า “ฉันเป็นคนสนุกสนาน ฉันเป็นสาววินเทจ ฉันชอบมิวสิคชอบเต้น” ซึ่งเราก็เห็นสิ่งเหล่านี้ผ่านการแต่งตัวและรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าของเธอ

Kiko: Work Hard

แม้จะดูงานยุ่งแค่ไหนเราก็ยังเห็นความสดใสที่แผ่ออกมาจากตัวเธออยู่เสมอ “ฉันพยายามที่จะไม่กดดันตัวเองถึงแม้บางครั้งจะมีเรื่องใหญ่ๆเกิดขึ้น” ถ้าพูดถึงงานใหญ่ๆของเธอเราคงจะไม่พูดถึงผลงานมิวสิควีดีโอของ The Weeknd ไม่ได้ “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากตอนที่ได้รับข้อเสนอให้มาถ่ายเอ็มวีนี้ ช่วงนั้นฉันกำลังถ่าย TV Series อยู่ทำให้ตารางงานฉันแน่นมาก ซึ่งฉันสามารถอยู่ถ่ายเอ็มวีได้น้อยกว่า 24 ชั่วโมงแล้วต้องบินกลับญี่ปุ่นในวันรุ่งขึ้น The Weeknd เขา Nice มากๆ เข้ามาขอบคุณที่มาเพราะรู้ว่าเรางานยุ่ง แต่เขาดูเหนื่อยมากจริงๆ ฉันรู้สึกว่าเขายุ่งมากๆเหมือนกัน”

เธอเล่าถึงบรรยากาสการทำงานมิวสิควีดีโอเพลง I Feel It Coming และการทำงานกับ The Weeked ซึ่งเธอยังได้เล่าถึงความประทับใจที่มีต่อนักร้องชื่อดังคนนี้ต่อด้วย “ฉันได้เจอเขาที่งาน Met Gala แล้วเขาก็บอกว่าเพิ่งมาถึงแต่ต้องไปแล้วแล้วก็บอกอีกว่าพรุ่งนี้เขามีถ่ายมิวสิควีดีโออีกแล้ว ฉันเลยรู้สึกว่า ว้าว นี่แหละนะซุปเปอร์สตาร์ ทำงานหนักจริงๆ ฉันรู้สึกมาเสมอว่าคนเอเชียเราทำงานหนักแต่นั้นไม่จริงเลย ทุกๆคนต่างก็ทำงานหนัก”

Kiko: Multinational

จริงๆแล้วความ Worldwide ของคิโกะไม่ได้มีเพียงมุมของการทำงาน แต่ความนานาชาติได้รวมอยู่ในตัวตนของเธอตั้งแต่แรก แม้จะเกิดและโตในญี่ปุ่นแต่ความจริงแล้วเธอเป็นลูกครึ่งเกาหลี – อเมริกัน “ฉันรู้สึกภูมิใจมากที่มีวัฒนธรรมที่หลากหลายอยู่ภายในตัวฉัน ฉันรู้จักว่าญี่ปุ่นจริงๆเป็นอย่างไร ฉันเรียนรู้เยอะมากเกี่ยวกับวัฒนธรรมเกาหลี แล้วฉันก็มีอีกด้านที่เป็นอเมริกัน ล่าสุดฉันอาศัยอยู่ที่ LA ก็ได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แตกต่าง” ด้วยส่วนผสมผสานของวัฒนธรรมที่หลากหลาย นั้นอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำไมเธอโดดเด่นแตกต่างจากเด็กสาวในญี่ปุ่น

เมื่อพูดถึงการทำงานในต่างประเทศเราก็ไม่พลาดที่จะถามถึงความรู้สึกในการทำงานที่ไทยสิ่งแรกที่เธอพูดถึงคือ “อากาศมันร้อนมากๆ (หัวเราะ) แต่มันก็เป็นกองถ่ายที่สนุกมากค่ะ” แต่ด้วยระยะเวลาอันจำกัดทำให้เธอยังไม่สามารถออกไปสำรวจเมืองไทยได้มากที่ควร “เพื่อนๆได้ให้ List สถานที่ต้องไปมาด้วยแต่ฉันก็ยังไม่ได้ไป” แน่นอนว่าในลิสต์ของเธอต้องมีร้านอาหารที่ห้ามพลาด ซึ่งเธอก็ได้เจออาหารที่ถูกใจแม้จะอยู่ในแอมบาสซีทั้งวัน “มัน Amazing มากถ้าลงไปชั้นล่างสุดพวกเขาจะมีร้านอาหารไทยเยอะมากมีน้ำมะพร้าวกับต้มยำกุ้งด้วย เมเนเจอร์ฉันมีลูกเขาก็เอาลูกไปเล่นที่ Play Ground รู้สึกว่าที่นี่เปลี่ยนไปเยอะมาก” พูดซะจนเราอยากไปเดินสำรวจแอมบาสซีทันทีเลย

Kiko: Original

“ฉันพยายามที่จะเป็น Original เท่าที่จะทำได้” เธอบอกเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นั้นทำให้เรานึกถึงช่วงที่เธอเริ่มต้นเป็นนางแบบ ในยุคที่สาวญี่ปุ่นนิยมทำผมสีบลอนด์ ผิวสีแทน ช่วงเวลานั้นคิโกะเป็นหนึ่งในนางแบบไม่กี่คนที่มาพร้อมกับผมสีดำและผิวขาวตามธรรมชาติ “ฉันไม่ค่อยตามเทรนด์ซักเท่าไหร่ ฉันไม่สนใจราคาสิ่งของที่ฉันสวมใส่แค่ใส่ในสิ่งที่ฉันชอบ”

Kiko: Girls Power!

คิโกะรู้ตัวเสมอว่าเธอที่ไอดอลที่เด็กสาวหลายคนยึดเป็นแบบอย่าง ซึ่งหลายบทบาทที่เธอทำก็แสดงให้เราเห็นมุมมองต่อ ความเป็นผู้หญิง ที่น่าสนใจของเธอ รวมไปถึงผลงานภาพยนต์เรื่องล่าสุด The Boy Who Wished to Be Tamio Okuda – The Girl Who Drove All the Men She Met Crazy ที่กำลังจะฉายในญี่ปุ่น “ฉันรับบทเป็น Akari Amami เด็กสาวที่ผู้ชายทุกคนอยากจะแต่งงานด้วย เพราะเธอมีสไตล์แบบสาวญี่ปุ่นที่น่ารักๆ แต่จริงๆแล้วเธอแสบมากซึ่งไม่มีใครรู้นิสัยจริงๆของเธอ”

“ฉันชอบคอนเซปท์ของคาแรกเตอร์มากๆ ผู้ชายทุกคนตกหลุมรักเธอเพราะมองแค่ภาพลักษณ์ภายนอกของเธอแล้วรู้สึกว่าอยากแต่งงานกับเธอ แต่พวกเขาไม่ได้มองเขาไปภายในตัวเธอ ซึ่ง Akari Amami ก็ใช้สิ่งความน่ารักนั้นแหละตลบหลังผู้ชายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่เธอต้องการ ฉันคิดว่ามันเป็นคาแรกเตอร์ที่เจ๋งมาก”

สิ่งที่ทำให้เราเปลี่ยนจากความชื่นชอบ เป็นหลงรักในตัวกิโกะไม่ใช่เพราะใบหน้าที่มีเอกลักษณ์หรือรอยยิ้มที่สดใส แต่คือทัศนคติที่เธอมีต่อตนเองและสิ่งที่เธอฝากถึงหญิงสาวคนอื่นๆ ที่ติดตามเธอ “ฉันพยายามที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่สนับสนุนและเชื่อมั่นในตัวฉัน และฉันหวังผู้หญิงทุกคนจะสามารถมีความเชื่อมั่นในตนเอง คุณควรเชื่อมั่นในตนเองและเชื่อมั่นในพลังของผู้หญิง มันสำคัญจริงๆนะ”

Special Thanks  : Central Embassy
Facebook : https://www.facebook.com/centralembassy
Website : http://www.centralembassy.com/