คงจะจริงที่เคยได้ยินใครต่อใครพูดว่า ‘ทำในสิ่งที่ชอบและรัก แล้วทุกอย่างจะออกมาดี’ แต่แค่ทำตามประโยคนี้จะทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จได้จริงหรือ? แล้วอะไรเป็นตัววัดความสำเร็จได้บ้าง จะประสบความสำเร็จได้ต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ในเมื่อความสำเร็จของแต่ละคนความหมายต่างกัน วันนี้เราเลยอยากชวนทุกคนมาซึมซับมุมมองจาก 2 เจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าผู้ชายแนวสตรีทแวร์อย่าง อาร์ท ประพัฒน์ สมบูรณ์สิทธิ์ และ เอก เอกภูมิ ตรีชัยรัศมี กับแบรนด์ Q Design And Play (QDAP)
ด้วยความ unique ของแบรนด์ทำให้ QDAP สามารถสะท้อนเรื่องราวที่อยากจะสื่อผ่านงานออกแบบด้วยฝีมือของอาร์ท –ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งของแบรนด์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องที่อยากจะพูด ทั้งเรื่องใกล้ตัว เรื่องที่เกิดขึ้นในสังคม เรื่องตัวเอง เรื่องที่ชอบหรือเคยเจอ แม้แต่เรื่องที่อยากจะเสียดสีออกมา ซึ่งข้อสุดท้ายนี้ดูจะเป็นธีมหลักที่ทำให้หลายคนชื่นชอบ และทั้งหมดได้ถูกรวมไว้อยู่ในแต่ละคอลเลกชันตั้งแต่บนเสื้อผ้า accessory ไปจนถึงของใช้ต่างๆ
ตัวตนที่แท้จริงของ Q Design And Play
“ไอเดียของแบรนด์ คือ Irony Boyish เป็นเด็กผู้ชายที่ชอบประชดประชัน เสียดสีสังคม นี่คือหัวใจของแบรนด์เลย ผมชอบทำงานที่เหมือนเป็นการเล่าเรื่องแล้วก็ส่ง massage ไปหาเสื้อผ้าด้วย ซึ่งเราโชคดีที่ลูกค้าเข้าใจ ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ โดยเฉพาะ “We Design You Play” เป็นคำที่คิดมาตั้งแต่เริ่มเปิดร้านมาเมื่อปี 2010 เรารู้สึกสนุกกับการที่จะสร้างสรรค์ผลงาน อยากให้ทุกคน (ลูกค้า) มาเล่นสนุกด้วย”
จากจุดเริ่มต้น สู่การยอมรับทั้งในไทยและต่างประเทศ
กว่าแบรนด์สร้างชื่อจะก้าวมาถึงปีที่ 7 ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจากประสบการณ์ที่ผ่านมาค่อนข้างเยอะ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์บ้านเมือง หรือเหตุการณ์ที่ต้องดิ้นรนเพื่อทำให้อยู่รอด แต่ทั้งคู่ก็พยายามพัฒนาตัวเองมาโดยตลอด จนมาถึงจุดที่ต้องการเติบโตไปอีกขั้น อยากจะเป็นเหมือนดีไซเนอร์ที่ประสบความสำเร็จ จึงยื่น portfolio ไปที่ร้าน Mob.F สยามเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นร้าน multi-brand ในตอนนั้น แล้วทั้งคู่ก็ได้รับโอกาสให้นำผลงานที่ออกแบบเองไปขายครั้งแรกในช่วงปี 2011 หลังจากนั้นคนไทยก็ได้เห็นเสื้อผ้าแบรนด์ Q Design And Play โลดแล่นบนรันเวย์ในต่างประเทศเรื่อยมา
“จริงๆ แล้วก็มีอีกหลายโอกาสที่เราได้รับ อย่างครั้งแรกคือได้ไปเดินโชว์ที่เกาหลีใต้ (งาน Seoul Fashion Week 2013) นั่นเป็นจุดที่ทำให้คนไทยเริ่มหันมามองเรามากขึ้น ว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์อะไร ทำไมถึงได้ไปเดินที่ต่างประเทศ ต่อมาก็ได้ลงคอลัมน์ใน MONOCLE Magazine จึงทำให้ลูกค้าต่างชาติก็เริ่มรู้จักเรามากขึ้น” นอกจากนี้ ยังได้ไปร่วมโชว์ผลงานในอีกหลายเวทีทั้ง Mercedes Benz Asia Fashion Week, Paris Fashion Week SS 2016 และ SS 2017 Vienna Fashion Week , ELLE / ELLE MEN FASHION WEEK SS 2016 และ FW 2016
แต้มต่อที่มีมากกว่าแบรนด์อื่น
“ผมก็เคยทำงานโฆษณามาก่อนด้วย วิธีการออกแบบ วิธีการเล่าเรื่องก็แตกต่างจากคนทำเสื้อผ้าแบรนด์อื่น เรามี key item ที่โดนใจ และก็ทำให้ลูกค้าเข้าใจในทุกคอลเล็กชั่น ที่สำคัญยังคงความชัดเจนในแบรนด์มาเรื่อยๆ อย่างงานกราฟฟิกที่เราใส่ลงไป โครงเสื้อผ้า และเทคนิคต่างๆ ที่ทำให้รู้ว่าเป็นแบรนด์ QDAP แน่นอน”
การมีพาร์ทเนอร์ที่เป็นข้อได้เปรียบ
เมื่อถามถึงข้อแตกต่างของการเป็นดีไซเนอร์กับหน้าที่รับผิดชอบในฐานะเจ้าของธุรกิจ ทั้งคู่อธิบายว่า ส่วนใหญ่ดีไซเนอร์จะไม่ค่อยเก่งด้านการทำธุรกิจ พร้อมชี้ให้เห็นว่าเกือบทุกแบรนด์ที่ดีไซเนอร์ต้องมาทำธุรกิจด้วยตัวเองยิ่งยาก เพราะดีไซเนอร์มักอยากจะทำเสื้อในแบบที่ตัวเองอยากทำ แต่บางครั้งก็ขายไม่ได้ ดังนั้นความโชคดีของทั้งคู่ จึงอยู่ที่การเป็นพาร์ทเนอร์ที่เข้าใจกัน เรียกว่าแค่มองตาก็รู้ใจ (เราสัมผัสได้แบบนั้น) โดยต่างฝ่ายต่างช่วยสกรีนซึ่งกันและกัน
อาร์ท : ผมเป็นดีไซเนอร์ ผมออกแบบ แต่คนนี้คือคนที่เกิดมากับธุรกิจจริงๆ (หันไปทางเอก)
เอก : ครับ ก็ช่วยดูธุรกิจของแบรนด์ให้มีความพอดี เราเลยจะคุยกันตลอดเวลา
คำว่า ‘ประสบความสำเร็จ’ ของทั้งคู่
“มองตัวเองแล้วรู้สึกว่ายังไม่ประสบความสำเร็จ (หัวเราะ) ในวงการแฟชั่นคุณอาจจะประสบความสำเร็จในหนึ่งคอลเล็กชั่น แต่คอลเล็กชั่นต่อไปเราก็ไม่รู้ว่าจะประสบความสำเร็จอยู่หรือเปล่า สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำให้ได้ คือรักษามาตรฐาน และพัฒนาตัวเอง และสร้างสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ แฟชั่นมันอัพเดทตัวเองตลอด เราต้องนำ ไม่ใช่แค่ตามอย่างเดียว”
คอลเล็กชั่นล่าสุดกับเวทีที่ประทับใจ
การทำงานในคอลเล็กชั่นล่าสุด มาจากโจทย์ที่ตั้งขึ้นมาว่า คนไทยมักจะอายเวลาไปซื้อถุงยางอนามัย แต่ต้องอย่าลืมว่าสิ่งนี้ช่วยปกป้องชีวิตคนและป้องกันปัญหาหลายอย่างไม่ให้ตามมา หลังจากนั้นจึงรีเสิร์ชปัญหาที่เกิดในสังคมไทย ทั้งจากการที่เด็กไม่ได้รับความรู้ที่เพียงพอ ปัญหาท้องก่อนแต่ง การร่วมเพศโดยไม่ถูกต้อง เหล่านี้ผ่านกระบวนการคิด ดีไซน์ จนออกมาเป็นคอลเล็กชั่นที่ทำออกมาให้สนุกสนานขึ้นด้วยการใช้ถุงยางอนามัยมาสื่อสาร พร้อมเพิ่มสีสันด้วยการเลือกวงอิเล็คทรอนิกส์ป๊อปอย่าง Tabasco มาร่วมในคอลเล็กชั่นนี้ด้วย จึงดึงคาแรกเตอร์วัยซ่าได้อย่างเต็มที่
อีกทั้งยังนำไอเดียของคอลเลกชัน spring/summer 2017 มาร่วมในคอลเล็กชั่นนี้จนกลายเป็นคอนเซ็ปต์ “YOU CAN’T HURRY LOVE” ซึ่งแฟชั่นเซ็ทนี้ยังเป็นอีกหนึ่งเวทีสุดประทับใจของทั้งคู่ เพราะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับทุกคนในงาน ELLE / ELLE MEN Fashion Week เมื่อปลายปีที่แล้ว ด้วยการให้แบบวิ่งบนรันเวย์ สร้างสีสันและการรับรู้ว่าแฟชั่นไทยก็มีอะไรสนุกๆ ให้คนทั่วโลกเห็น
ปลุกกระแส Menswear ในเมืองไทย
นอกจากจากนี้ ทั้งคู่ก็ยังต้องการสร้างสีสันให้กับวงการแฟชั่นไทย ด้วยการร่วมกันก่อตั้งกลุ่ม Boys of Bangkok หรือ B.O.B “ผมต้องบอกก่อนว่า Menswear ในเมืองไทยค่อนข้างน่าเบื่อ ไม่มีอะไรใหม่ การแข่งขันก็น้อย ตลาดค่อนข้างเงียบเหงา เราเลยรวมกลุ่มเพื่อสร้างอะไรใหม่ๆ ให้กับวงการแฟชั่นไทย เพื่อเพิ่มภาพลักษณ์ Menswear ในไทยให้แข็งแรง ด้วยความรู้สึกที่ว่า “ถ้าเราไม่เริ่ม มันก็ไม่เกิด เรารอไม่ได้ จึงสร้างอีเว้นต์เพื่อทำให้คนรู้สึกสนใจ ก็จัดมา 2 season คือ Autumn 2016 กับ Spring 2017 และกำลังจะจัด Autumn 2017 ช่วงเดือนกันยายน จึงอยากให้ทุกคนติดตาม เพราะต้องมีอะไรสนุกๆ ตื่นเต้นรอให้ดูแน่นอน”
คำแนะนำจากคนในวงการดีไซน์เหมือนกัน
แม้ตอนนี้เราจะได้เห็นดีไซเนอร์หน้าใหม่ก้าวเข้ามาในวงการดีไซน์อย่างต่อเนื่อง แต่ในฐานะนักออกแบบเหมือนกัน คุณอาร์ทแนะนำว่าการมี passion เป็นเรื่องสำคัญ เพราะการสร้างงานต้องมาจากแรงบันดาลใจ สร้างสรรค์อะไรใหม่ๆ ให้กับวงการออกแบบ ตั้งแต่วงการเสื้อผ้าไปจนถึงวงการธุรกิจด้วย แถมทั้งคู่ยังอยากให้ไซเนอร์ไทยรุ่นใหม่ๆ ดึงความสามารถของตัวเองออกมา เพื่อสร้างงานใหม่ให้เกิดขึ้นทั่วโลก
_________
ตลอดการพูดคุยเราเห็นแววตาของความมุ่งมั่นของทั้งคู่ เมื่อเล่าถึงจุดเริ่มต้นในแต่ละแง่มุมที่เคยผ่านมา จนทำให้เข้าใจได้ว่าจริงๆ แล้วเทคนิคการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก จะต้องมาจากการบาลานซ์แต่ละจุดที่สำคัญไว้ให้ได้ ไม่ใช่แค่ทำแล้วจบไป แต่ต้องเริ่มสร้างอะไรใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนา ซึ่งแน่นอนว่าการเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักก็จะตามมาเอง
Q Design And Play
www.qdaponline.com
www.facebook.com/qdesignandplay
—
RECOMMENDED CONTENT
เบื้อหลัง The Fast and the Furious: Tokyo Drift ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2006 กำกับโดย Justin Lin เป็นหนึ่งภาคที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำรายได้ถึง 5,300 ล้านบาท