ถ้าจะให้นับจำนวนศิลปินจากต่างประเทศที่มาเปิดคอนเสิร์ตและประกาศว่าจะเปิดในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนที่ผ่านมานี้คงมีไม่ต่ำกว่า 50 รายชื่อ เรียกว่าเรียงแถวกันจองคิวจนหัวบันไดอิมแพค ธันเดอร์โดมและฮอลล์ต่างๆ แทบไม่มีวันว่าง เป็นปรากฏการณ์ที่ชวนกระเป๋าเงินเราสั่นสุดๆ
สำหรับทุกคอนเสิร์ต หนึ่งสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยคือผู้จัด ซึ่งในเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมาเราก็เห็นรายชื่อผู้จัดหน้าใหม่หลายรายที่น่าสนใจ รวมถึง Seen Scene Space –ผู้จัดคอนเสิร์ตสายอินดี้ที่มาสร้างซีนให้ศิลปินฝั่งเอเชียได้มาจัดงานแสดงในไทย รวมถึงศิลปินสุดฮอตจากเกาหลีอย่างวง Hyukoh ที่บัตร Sold Out อย่างรวดเร็วจนต้องเพิ่มรอบอีกด้วย
แตกแล้วโต โตแล้วแตก
Seen Sence Space ไม่ได้เป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในวงการเพลงอินดี้เพราะพวกเขาคือกลุ่มเดียวกันกับค่ายเพลง Parinam Music บ้านของศิลปินอย่าง ปลานิลเต็มบ้าน, Gym and Swim และ Seal Pillow คุณปูม-ปิยสุ โกมารทัต บอกเราว่า หลังจากทำค่ายมากว่า 10 ปี และค่ายเริ่มอยู่ตัวแล้ว การทำ music organize จึงเป็นก้าวต่อไปในฐานะผู้อยู่ในวงการเพลง “ทีแรกเราเริ่มต้นจากเป็น organizer จัดงานดนตรี ก็เริ่มจากวงไทยนี่แหละ เป็นวงอินดี้ที่น่าสนใจที่เขาไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่นงานไหน แล้วก็เหมือนจัดงานขึ้นมาให้เล่น”
Pow! Fest ครั้งที่ 1
ในปี 2015 จึงเกิดเป็นงาน Pow! Fest ครั้งที่ 1 ในนาม Seen Scene Space เทศกาลดนตรีที่ตั้งใจจะรวบรวมวงอินดี้ในแนว Dream pop, Soft Rock ทั่วไทยมาไว้ในงานเดียว “จริงๆ งานนั้นก็ไม่ได้ตั้งใจให้มีวงนอกด้วย ตั้งใจให้เป็นวงไทย น้องๆ ก็ถามว่าเราเอาวงเมืองนอกมาบ้างไหม” จากความคิดที่จะมีแค่วงไทย ก็ขยับไปเป็นการเชิญวงจากต่างประเทศมาสร้างสีสัน แต่ด้วยงบประมาณจำกัด คุณปูมจึงเลือกชวนวงอินดี้เอเชีย ทำให้ครั้งนั้นเราได้รู้จักกับ the fin ที่มีเปิดแสดงครั้งแรกในไทย
เปิด Scene ให้ Asian Indy
“ก็ไม่ได้ตั้งใจ แต่จังหวะมันได้” แม้ว่าตอนนี้หากพูดถึง Seen Scene Space ก็จะนึกถึงวงอินดี้เอเชีย แต่มันก็ไม่ได้เป็นความต้องการของทางทีมมาตั้งแต่แรก “มันเริ่มต้นจากที่ the fin แล้วคอนเน็กชั่นมันมีไปเรื่อยๆ ได้พา Gym and Swim ไปทัวร์ที่ญี่ปุ่นก็ได้ไปเจอคนในวงการเพลงอินดี้บ้านเขา มันเลยเหมือนคอนเน็กชั่นมันกว้างขึ้นเรื่อยๆ ”
ด้วยผลตอบรับที่ดีจากคอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของ The fin ทำให้ Seen Scene Space กลายเป็นผู้จัดที่ศิลปินหลายๆ วงไว้วางใจ “อย่าง DYGL ก็เป็นวงที่เราไม่ได้ติดต่อไป แต่อยู่ใน Wish list ของเราว่าอยากให้มา ยังไม่ทันได้ชวน เขาก็เสนอมาว่าเขาจะมีเอเชียทัวร์นะ เพื่อที่จะโปรโมต Fuji Rock ของเขา เราก็เอาทันทีไม่ได้คิด ไม่ได้อะไรทั้งสิ้น”
จาก the fin สู่ Hyukoh
นอกจากความชอบส่วนตัวและการติดตามข่าวสารของวงการเพลง อีกแหล่งที่สำคัญในการเสาะหาวงดนตรีของคุณปูมคือศิลปินในค่าย ที่มักแนะนำศิลปินจากประเทศต่างๆ ตั้งแต่ the fin ศิลปินกลุ่มแรกที่เขาได้จัดคอนเสิร์ตให้อย่างเต็มตัว ไปจนถึง PREP ศิลปินหน้าใหม่สุดๆ จากฝังอังกฤษ ที่ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย จากวงที่ยังไม่มีแม้กระทั่งแฟนเพจเป็นของตนเอง แทบจะไม่เป็นที่รู้จักในไทย ก็สามารถขายบัตรหมดได้ก่อนวันงาน “วงนี้น้องๆ ในค่ายแนะนำ ส่วนเราฟังปุ๊บก็ชอบทันทีก็เลยพามา หลายๆ คนก็บอกเราทั้งในงานและหน้าเพจว่า เขามาชอบวงนี้ก็ตอนที่เราเอามานี่แหละ” ต้องบอกว่า Seen Sence Space ไม่ได้เพียงจัดคอนเสิร์ต แต่เขายังได้สร้างคอมมิวนิตี้ของแฟนเพลง ที่ไม่ว่าเขาจะพาวงไหนมา แฟนๆ ก็ต่างไว้ใจตามดูเสมอ
สร้าง Space ให้คนดู
สิ่งสำคัญที่ทำให้ Seen Scene Space เป็นผู้จัดคอนเสิร์ตที่หลายคนติดตาม คงหนีไม่พ้นความใส่ใจกลุ่มคนดู รวมถึงการนำ Hyukoh ศิลปินอินดี้ชื่อดังฝั่งเกาหลีมาจัด ‘Live in Bangkok’ ตามคำเรียกร้องของแฟนๆ “เรามองว่าเขาเป็นวงอินดี้นะ มารู้จักตอนรู้ว่าวงนี้ขึ้นที่หนึ่งของชาร์ตเกาหลี ซึ่งดังว่ะ ตื่นเต้นตกใจไม่นึกว่ากระแสตอบรับจะมากมายอย่างนี้”
ด้วยชื่อเสียงของ Hyukoh ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกลุ่มผู้ฟังอินดี้ แต่ยังมีแฟนเพลงมากมายในกลุ่มผู้ฟัง K-Pop ทำให้การจัดงานครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่แตกต่างไปของพวกเขา “การสื่อสารกับคนซื้อบัตรหรือลูกค้าเราก็จะแตกต่างจากที่ทำมา ต้องคอยบอกทีมงานทุกคนว่า เราต้องใช้ภาษาอีกแบบหนึ่งในการสื่อสาร ซึ่งก็โอเคดีเหมือนกัน เพราะน้องๆ ก็ชมว่าแอดมินดีมากเลย”
หรือนี้จะเป็น ‘ยุคฟองสบู่’ ของการจัดคอนเสิร์ต
แน่นอนว่า เราจะไม่พูดถึงการเกิดขึ้นของคอนเสิร์ตเหมือนเห็ดผุดตอนนี้ไม่ได้ ซึ่งคุณปูมได้บอกกับเราว่า เขาเองก็พยายามหาสาเหตุของมันเหมือนกัน “เหมือนตอนนี้เด็กๆ เริ่มอินกับการดูไลฟ์แล้ว เดี๋ยวนี้คนไม่อยากซื้อ CD แล้ว ฟังเพลงกันในสตรีมมิ่ง มันอาจทำให้พวกเขาเริ่มมีใจที่อยากไปเจอตัวจริง ไปฟังสดมากขึ้นกว่าเดิม ผมว่าพอมันมีคนฟังมากขึ้น ก็เลยมีคนจัดมากขึ้น”
แม้นี้จะดูเป็น ‘ยุคฟองสบู่’ ของคอนเสิร์ตต่างประเทศ แต่ซีนดนตรีของคนไทยกลับเงียบเหงาลง “ในฐานะที่เราอยู่วงการเพลงอินดี้ของไทยด้วยเนี่ย เราก็มองว่าคนฟังเพลงอินดี้ไทยก็เริ่มเบาบางลง เหมือนตอนนี้กลายเป็นคอนเสิร์ตเมืองนอกขายดีกว่าคอนเสิร์ตคนไทยซะงั้น”
Scene ในฝันของ Seen Scene Space
แม้จะดูสนุกสนานกับการสร้างซีนให้ศิลปินต่างประเทศ แต่จุดยืนของพวกเขาก็ยังไม่ทิ้งศิลปินไทย “เราอยากให้ Pow! Fest มันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เป็นงานที่เป็น Destination ของคนฟังเพลง ได้เป็น St Jerome’s Laneway Festival แบบสิงคโปร์ หรือ Summer Sonic แบบญี่ปุ่นได้”
ในยุคที่การจัดคอนเสิร์ตเฟื่องฟูแบบนี้ สิ่งที่สำคัญคงเป็นจุดยืนของผู้จัดในการยืนหยัดบนทางของตนเอง ซึ่งจุดยืนของ Seen Scene Space คือการสร้างพื้นที่ให้กับวงดนตรีและแนวเพลงที่น่าสนใจ
“ในฐานะ Parinam Music เราก็ยังพยายามจะหาอะไรใหม่ๆ ให้กับคนฟัง และในฐานะ Seen Scene Space เราก็ยังพยายามหาวงที่คิดว่าคนไทยน่าจะชอบเหมือนกัน”
ติดตาม Seen Scene Space ได้ที่
https://www.facebook.com/SeenSceneSpace/
—
RECOMMENDED CONTENT
“HENS ศิลปินมากความสามารถที่มาพร้อมแนวเพลง Alternative Pop ประกอบด้วย ปู๋-ปิยวัฒน์ มีเครือ (ร้องนำ), โฟร์-ประทีป สิริอิสสระนันท์ (กีตาร์), บัง- เอกสิริ กำบังภัย (เบส) และ จ๊อบ-กฤตพงศ์ สกุลนามอเนก (กลอง) จากสังกัดค่ายเพลง What The Duck ที่ได้ฝากผลงานเพลงฝังแน่นไปด้วยเอกลักษณ์ไว้มากมาย อาทิ “แพนด้า”, “กลั้นไว้”, “ข้างเดียว”, “It’s gotta be you”, “มนุษย์อวกาศ” และเพลงมู้ดสดใสอย่าง “เมดูซ่า”