นับเป็นเส้นทางอันยาวนานของมูจิ (MUJI) แบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์สัญชาติญี่ปุ่นที่โด่งดังทั่วโลก ได้เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และครองใจคนไทยสายมินิมัลลิสท์ ด้วยเอกลักษณ์ของแบรนด์อันเด่นชัด “ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ” “เป็นธรรมชาติ” “เรียบง่าย” “ไม่มียี่ห้อ” และ “ราคาสมเหตุสมผล” เพื่อตอกย้ำวิถีดังกล่าว มูจิ ประเทศไทย จัดนิทรรศการ “What is MUJI?” งานแสดงแนวคิดของแบรนด์มูจิ จากปรัชญาเพื่อคุณภาพชีวิตอย่างเรียบง่าย สู่การเป็นแบรนด์ยั่งยืนอย่างเต็มตัว โดยนิทรรศการครั้งนี้จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3 – 17 มีนาคม 2565 ณ บริเวณด้านหน้าร้าน MUJI ชั้น G ศูนย์การค้าสามย่าน มิตรทาวน์
นายอกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพราะ MUJI ไม่ใช่แค่แบรนด์ แต่คือไลฟ์สไตล์ และสินค้าก็ไม่ใช่แค่ผลิตภัณฑ์ แต่คือเรื่องราวและคุณค่าที่ MUJIอยากส่งต่อให้ลูกค้ารวมทั้งสังคมรอบข้าง จากจุดเริ่มต้นที่ MUJI ได้เข้ามาในประเทศไทย พร้อมเอกลักษณ์ของแบรนด์อันเด่นชัด นั่นคือ “ประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ” “เป็นธรรมชาติ” “เรียบง่าย” “ไม่มียี่ห้อ” และ “ราคาสมเหตุสมผล” จนเกิดเป็นกระแสอีโคไลฟ์สไตล์ การใช้สินค้าที่ดีต่อตัวเอง ดีต่อธรรมชาติ และดีต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงความพิถีพิถันของกระบวนการผลิตและการออกแบบดีไซน์ ทำให้ MUJI กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของผู้คนในทุก ๆ ด้านของชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ สินค้า MUJI ไม่ได้มีแค่ฟังก์ชันของการใช้งาน แต่มีคุณค่าและเรื่องราวที่ส่งมอบให้ผู้ใช้ จากแรงบันดาลใจที่ MUJI ต้องการส่งต่อคุณค่า ผ่านทุกกระบวนการผลิตสินค้าไปสู่ลูกค้า ต่อยอดถึงการมอบคุณค่าสู่สังคมในทุกมิติ เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นอีกพันธกิจสำคัญของ MUJI ในการเดินหน้าเป็นแบรนด์ยั่งยืน (Sustainable Brand) และได้ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงหลักการนี้มาตลอดหลายปี จนเป็นที่มาของการจัดนิทรรศการ “What is MUJI?” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวการเป็น Sustainable brand ของ MUJI ที่มีการเชื่อมโยงกันระหว่างแบรนด์กับสิ่งแวดล้อม รวมถึงแสดงผลงานต่าง ๆ ที่ MUJI ได้ส่งต่อคุณค่าของแบรนด์สู่ชุมชนออกมาในรูปแบบกิจกรรม และผลิตภัณฑ์ต่างท้องถิ่นต่าง ๆ ในมุมมองที่หลายคนยังไม่เคยเห็น สอดคล้องกับค่านิยมของผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ที่มองหาแบรนด์ที่ไม่ได้มีดีแค่ผลิตภัณฑ์ แต่ตอบโจทย์ในเรื่องของความรับผิดชอบต่อผลกระทบเรื่องความยั่งยืน
ภายในนิทรรศการ “What is MUJI?” มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโชว์เคสของ MUJI โดยแบ่งออกเป็นโซนที่น่าสนใจดังนี้ “MUJI Garment” เปิดเส้นทางกว่าจะมาเป็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในแบบ MUJI และเรื่องราวที่น่าสนใจของการคัดสรรผ้าฝ้ายและผ้าลินินออร์แกนิกแบบ 100%, “MUJI Local Food” สัมผัสคุณค่าจากผลผลิตของชุมชนท้องถิ่นที่ถูกคัดสรร เพิ่มมูลค่าด้วยกระบวนการผลิตสไตล์ MUJI ปราศจากสารเคมีและไม่ใส่สารกันเสีย งดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ที่ถ่ายทอดให้เห็นถึงแนวคิดในการทำงานของ MUJI ร่วมมือกับชุมชนท้องถิ่น ส่งเสริมการสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรไทย, “MUJI Local Activities” รวบรวมกิจกรรมและเวิร์คช็อปที่ MUJI ได้สร้างสรรค์ร่วมกับชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทย และสนับสนุนสินค้าภูมิปัญญาไทย โดยตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา MUJI ได้เริ่มทำกิจกรรมเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและชุมชน โดยจัดเวิร์คช็อปภายในร้าน และกิจกรรม “Tarad Nut” หรือตลาดนัด MUJI ที่เปิดพื้นที่ภายในร้านให้กับร้านค้าและสินค้าแบรนด์ท้องถิ่นของไทย ได้เข้ามาจำหน่ายในสาขาของ MUJI โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นต้น
นอกจากนี้ ภายในนิทรรศการยังมีการโชว์สินค้าทั้งหมดจาก MUJI มากกว่า 1,780 รายการที่ได้ทำการปรับลดราคาลงตั้งแต่ปี 2562 รวมถึงเรื่องราวเพื่อสังคมที่ MUJI ได้ทำการบริจาคให้กับมูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อพัฒนา (EDF) ตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน
“What is MUJI?” เป็นนิทรรศการในรูปแบบป๊อปอัพ จัดบนพื้นที่ประมาณ 250 ตารางเมตร ณ บริเวณด้านหน้า ร้าน MUJI ชั้น G ศูนย์การค้าสามย่าน มิตรทาวน์ โดยออกแบบนิทรรศการเป็นเอกลักษณ์ด้วยสไตล์ “มินิมัลลิสต์” พร้อมตกแต่งด้วยสินค้าและเฟอร์นิเจอร์งานดีไซน์ของ MUJI เพื่อให้มูจิแฟนและผู้ที่สนใจได้ชมนิทรรศการพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สะท้อนเอกลักษณ์ของ MUJI ได้เต็มอรรถรส
ร่วมสัมผัสนิทรรศการ “What is MUJI?” งานแสดงแนวคิดแบรนด์มูจิ จากปรัชญาเพื่อคุณภาพชีวิตอย่างเรียบง่าย สู่การเป็นแบรนด์ที่สร้างความยั่งยืนอย่างเต็มตัว เข้าชมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ณ บริเวณด้านหน้าร้าน MUJI ชั้น G ศูนย์การค้า สามย่านมิตรทาวน์ ตั้งแต่วันที่ 3 – 17 มีนาคม 2565 เวลา 10.00 – 22.00 น.
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook : MUJI Thailand และ Instagram : MUJI_Thailand
@MUJITHAILAND #WhatisMUJIExhibition #MUJI #MUJIThailand #มูจิ
RECOMMENDED CONTENT
อาดิดาส เปิดตัวซีรีส์ภาพยนตร์ต้อนรับการแข่งขันยูโร 2020 (UEFA EURO 2020TM) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก้แฟนบอล นักฟุตบอล และทุกคนได้มองเห็นถึงโลกแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมกับแสดงให้เห็นถึงสิ่งความแตกต่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การแข่งขันและเราทุกคนแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น