fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#Culture | คุณพ่อแม่มือใหม่ ต้องรับมือ เมื่อลูก…เป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย
date : 20.กรกฎาคม.2018 tag :

การเปลี่ยนแปลงจากวัยเด็กไปสู่วัยหนุ่มสาวนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่พ่อแม่ผู้ปกครองจะรับมืออย่างไรหากลูกหลานเกิดความเปลี่ยนแปลงทางสรีระก่อนวัยอันควร เช่น เด็กหญิงมีไตเต้านมขึ้นก่อนอายุ 8 ปี หรือมีประจำเดือนก่อนอายุ 9 ปี ร่วมกับมีประวัติสูงเร็ว หรือเด็กชายมีอัณฑะขนาดใหญ่ก่อนอายุ 9 ปี มีขนรักแร้ หนวด หรือกลิ่นตัวร่วมด้วย นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนว่า ลูกหลานของท่านกำลังเป็น “โรคเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย”

พญ.อลิสา กุลปิยะ กุมารแพทย์ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม รพ.กรุงเทพ กล่าวว่า ภาวะเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย หรือสภาวะที่เด็กโตเร็วกว่าปกติ (Precocious Puberty) พบได้ในเด็กทั้งเพศหญิงและชาย โดยมักพบในเด็กหญิงมากกว่าเด็กชายประมาณ 8-20 เท่า พ่อแม่ผู้ปกครองจึงจำเป็นที่จะต้องหมั่นสังเกต

โดยเด็กที่เป็นหนุ่มสาวก่อนวัยนั้น แม้ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่เป็นได้อย่างชัดเจน แต่พบว่าส่วนใหญ่มีสาเหตุเกิดจาก

1.กรรมพันธุ์ โดยเฉพาะถ้าพ่อแม่มีประวัติเข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็ว เช่น พ่อเสียงแตกเร็ว หรือแม่มีประจำเดือนเร็ว ลูกก็อาจจะเป็นหนุ่มเป็นสาวเร็วได้เช่นกัน

2.สิ่งแวดล้อม เช่น ภาวะโภชนาการ เด็กที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ นิยมรับประทานอาหารกรุบกรอบ ของทอดของมัน อาหารที่มีไขมันสูง หรืออาหารจานด่วน ก็อาจทำให้เข้าสู่วัยหนุ่มสาวเร็วกว่าปกติ

3.พยาธิสภาพ อาทิ พยาธิสภาพในสมอง เช่น เคยมีก้อนเนื้องอก สมองเคยขาดออกซิเจน หรือเคยติดเชื้อมาก่อน หรือเคยได้รับการฉายรังสีที่อาจจะไปกระตุ้นให้ต่อมใต้สมองสร้างฮอร์โมนเพศได้ หรือพยาธิสภาพในต่อมเพศ เช่น ถุงน้ำในรังไข่ในเด็กหญิง ก็จะทำให้มีการสร้างฮอร์โมนเพศมากขึ้นเช่นกัน แต่ทั้งนี้ พบว่า 90% ของเด็กหญิงที่เป็นสาวเร็วมักไม่มีสาเหตุที่แน่ชัด ส่วนอีก 10% คือมีพยาธิสภาพ ในขณะที่เด็กชายมักจะมีพยาธิสภาพได้ถึง 90% ดังนั้นในเด็กชายจึงต้องทำการตรวจเพิ่มเติมทุกราย โดยสัญญาณเตือนทางร่างกายที่สังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงหรือบ่งบอกว่าเด็กคนนั้นกำลังเข้าสู่การเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย ได้แก่ ในเด็กผู้ชายอายุก่อน 9 ขวบ อัณฑะและองคชาตโตขึ้น เริ่มมีขนบริเวณอวัยวะเพศและรักแร้ นมแตกพาน เสียงแหบห้าว กล้ามเนื้อเป็นมัด เป็นสิว หน้ามัน มีกลิ่นตัว ส่วนสูงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีหนวด ในเด็กผู้หญิงอายุก่อน 8  ขวบ มีเต้านมที่โตขึ้น เริ่มมีขนบริเวณอวัยวะเพศและรักแร้ รูปร่างเปลี่ยนไป เช่น เอวคอด สะโพกผาย มีตกขาวหรือมีประจำเดือน เป็นสิว หน้ามัน มีกลิ่นตัว และส่วนสูงเพิ่มเร็ว เป็นต้น

การเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัย เกิดผลกระทบทั้งและจิตใจ ด้านร่างกาย คือ การที่เด็กมีฮอร์โมนเพศในปริมาณสูงกว่าปกติ จะทำให้เด็กโตเร็วกว่าเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน ฮอร์โมนเพศจะทำให้กระดูกโตเร็วและปิดเร็ว และหยุดการเจริญเติบโต สิ่งที่ตามมาคือ ระยะเวลาการเจริญเติบโตในวัยเด็กจะสั้นลงกว่าเด็กปกติจึงทำให้เตี้ยเมื่อเป็นผู้ใหญ่ และในด้านจิตใจคือ เด็กหญิงในกลุ่มนี้จะมีสรีระร่างกายภายนอกดูเป็นสาววัยรุ่น ในขณะที่จิตใจยังคงเป็นเด็ก ทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกันระหว่างวุฒิภาวะทางร่างกายและจิตใจ อาจนำไปสู่ปัญหาการล่อลวงได้ง่าย นอกจากนี้เด็กอาจรู้สึกว่าตัวเองมีรูปร่างแตกต่างไปจากเพื่อนๆ วัยเดียวกัน อาจทำให้โดนล้อเลียนและมีพฤติกรรมแยกตัว ส่วนปัญหาด้านจิตใจในเด็กชาย เนื่องจากการเป็นหนุ่มก่อนวัย ฮอร์โมนเพศชายจะสูงกว่าปกติ นำไปสู่การมีพฤติกรรมก้าวร้าว อารมณ์รุนแรง มีอารมณ์ทางเพศ วิธีตรวจวินิจฉัยคือ เมื่อสงสัยว่าเด็กเป็นหนุ่มสาวก่อนวัยให้รีบเข้ารับการตรวจร่างกายกับกุมารแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อในทันที

นอกจากตรวจร่างกายและประเมินการเจริญเติบโตแล้ว แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยตามขั้นตอนดังนี้

1)ตรวจอายุกระดูก โดยการเอ็กซเรย์ที่กระดูกข้อมือซ้าย เพื่อประเมินว่ามีอายุกระดูกล้ำหน้ากว่าอายุจริงหรือไม่ การประเมินในจุดนี้เป็นเพราะภาวะดังกล่าวจะส่งผลกระทบกับความสูงสุดท้ายเมื่อเป็นผู้ใหญ่

2)ตรวจเลือดวัดระดับฮอร์โมน โดยทำการทดสอบฮอร์โมน GnRH stimulation test ซึ่งเป็นการวัดระดับฮอร์โมนเพศในร่างกาย

3)ตรวจ MRI สมองเพื่อหาสาเหตุของโรคเป็นสาวเร็ว

4)ทำอัลตราซาวนด์ช่องท้องส่วนล่าง เพื่อหาสาเหตุและประเมินขนาดมดลูกและรังไข่ อีกทางหนึ่ง การป้องกันความเสี่ยงในการเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยที่ง่ายที่สุดคือ ควบคุมน้ำหนักของเด็กให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน การให้เด็กรับประทานอาหารตามโภชนาการที่เหมาะสม และออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อการมีสุขภาพที่แข็งแรงตามวัย  

หากผู้ปกครองสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าบุตรหลานเป็นหนุ่มเป็นสาวก่อนวัยหรือไม่ ควรพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างแน่ชัด ที่สำคัญพ่อแม่ควรใส่ใจอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ลูกมีร่างกายที่เจริญเติบโตตามวัยอย่างเหมาะสม เพิ่มศักยภาพในการใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์กุมารเวชกรุงเทพ รพ.กรุงเทพ โทร. 02-310-3006 02-755-1006 หรือโทร. 1719

RECOMMENDED CONTENT

20.กุมภาพันธ์.2023

อย่าให้ความสุขที่สำคัญที่สุด... ผ่านไป หนังสั้นเล่าเรื่องของคนวัยทำงาน ในหนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง ที่ใช้เวลาไปกับงาน ก็ 1 ใน 3 ของวัน และยังมีเรื่องราวมากมายที่เราต้องรับรู้ หรือต้องเป็นส่วนหนึ่งกับเรื่องราวต่างๆ  สิ่งที่เหลือก็คือสิ่งสำคัญของชีวิตที่ช่วยปลอบประโลมใจเราให้มีพลังก่อนกลับบ้านแล้วตื่นเช้าเพื่อเริ่มวันใหม่