แปลกใจกันไหมว่าทำไมระยะหลังนี้ เหล่าดิว่านักร้องตัวแม่ทั้งหลายถึงมีเพลงที่แต่งด้วยคำว่า “Bitch” กันมากมาย คำนี้เป็นคำหยาบไมใช่หรือ?

คำว่า Bitch ถ้าแปลตามตัว หมายถึง สุนัขตัวเมีย คำๆนี้ถูกใช้เป็นคำด่าผู้หญิงที่ค่อนข้างรุนแรงมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14  เพราะใช้เปรียบเทียบผู้หญิงที่มีความต้องการทางเพศสูงว่าเหมือน “สุนัขตัวเมียเวลาติดสัด” ! ส่วนผู้ชายในยุคนั้นก็จะโดนด่าว่า son of a bitch เพื่อให้รู้สึกเจ็บปวดเพราะถูกด่าถึงบุพการี ในทศวรรษที่ 19 ความหมายคำว่า Bitch เริ่มเปลี่ยนไป แม้ว่าจะยังเป็นคำด่าอยู่ แต่ความหมายอ่อนลงไว้ใช้เรียกผู้หญิงร้ายๆ ก้าวร้าวทำตัวแรงให้คนอื่นเกลียดขี้หน้าถึงขั้นอยากจะเอาเปลือกทุเรียนตบสักที

แต่ทุกวันนี้ มีการเรียกร้องสิทธิสตรี ผู้หญิงมีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น ไม่ได้เป็นช้างเท้าหลังอีกต่อไป คำว่า Bitch จึงเริ่มแปรสภาพมีความหมายที่ดีขึ้น  และในบ้างครั้งถึงขั้นเป็นคำชม เพราะภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า Bitch ใน Pop culture นั้นหมายถึงผู้หญิงที่แข็งแกร่ง รักอิสระ ฉลาด และไม่ก้มหัวให้ผู้ชาย มีความมั่นใจ เป็นสาวแซ่บ แรง ร้ายในทางที่ดี

ในเมื่อเข้าใจความหมายของ คำว่า Bitch กันแล้ว เราขอแนะนำเพลง สนุกๆ แสบๆ คันๆ ที่สาวๆฟังแล้วจะภูมิใจกับความ แซ่บเว่อร์ ของตัวเอง อย่างแน่นอน!

The Bitch Is Back- Elton John (1974)

คำว่า  Bitch ไม่ใช่ว่าจะมีเฉพาะเพลงจากนักร้องสาวอย่างเดียว ความจริงแล้ว Elton John นั้นเป็นผู้นำเทรนด์ใช้คำนี้มาเขียนเป็นเพลงก่อนใคร แถมสร้างกระแสฮือฮา โดนเซ็นเซอร์จากสถานีวิทยุในยุคนั้นด้วยเพราะว่ายังถือว่าเป็นคำหยาบไม่สมควรออกอากาศ โดยเพลงนี้ว่ากันว่ามีที่มาจาก Maxine Feibelman ภรรยาของ Bernie Taupin นักแต่งเพลงคู่ใจของ Elton John  แต่สุดท้าย Elton John บอกว่า Bitch ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงใครเป็นพิเศษ แต่หมายถึงเขานั่นเอง ส่วนเนื้อหานั้นกล่าวถึง คนๆหนึ่งที่โดนดูถูกมาตั้งแต่เด็กแต่เมื่อโตขึ้น ก็พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเจ๋ง พร้อมโชว์ความแซ่บตอกกลับทุกคนในอดีต

เนื้อเพลงสุดแซ่บ: “I can bitch, I can bitch `Cause I’m better than you It’s the way that I move The things that I do”

Meredith Brooks – I’m A Bitch (1997)

เพลงชาติสาว Bitch ที่โดนใจสาวๆยุค 90s จนติดอันดับเพลงฮิตในคลื่นวิทยุทั่วโลก เพราะเป็นเพลงของศิลปินหญิงเพลงแรกๆ ที่ใช้คำว่า Bitch กันแบบตรงๆไม่มีเม้มถึงขั้นเป็นชื่อเพลง และเนื้อหาแสดงถึงอารมณ์ความรู้สึกในจิตใจผู้หญิงได้เป็นอย่างดี  ที่ผู้หญิงนั้นไม่ได้มีแค่ด้านเดียวที่ผู้ชายรู้จัก เธอสามารถ เป็นทั้งนางฟ้า และ นางมารได้ในคนเดียว ซึ่งเพลงนี้ถูกนำมาใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง What Women Want (2000) ได้อย่างลงตัว

เนื้อเพลงสุดแซ่บ: “I’m a bitch, I’m a lover, I’m a child, I’m a mother I’m a sinner, I’m a saint, I do not feel ashamed”

Madonna – Bitch I’m Madonna ft. Nicki Minaj (2015)

Madonna เจ๊แม่ผู้นำเทรนด์สาวแสบตลอดกาล ชักชวนดีเจหนุ่มรูปหล่อสุดฮอตอย่าง Diplo มาเป็นคนร่วมโปรดิวซ์ และแต่งเพลงนี้ให้ เพราะต้องการตอกหน้าพวกปากหอยปากปูที่หาว่าเธอแก่เกินแกง ควรอยู่กับบ้านเฉยๆเลี้ยงหลานมากกว่า เพลงนี้มีเนื้อหาสนับสนุนให้ทุกคนเป็นตัวของตัวเองอย่าได้แคร์คำครหา และมาสนุกสุดเหวี่ยงกันให้ลืมแก่ ใครจะว่าก็ตะโกนใส่ไปเลย ว่าดีออก! ฉันมาดอนน่านะยะ!
เนื้อเพลงสุดแซ่บ: “We go hard or we go home, We gon’ do this all night long, We get freaky if you want, Bitch I’m Madonna!”

Work Bitch – Britney Spears (2013)

เป็นผู้หญิงยุคนี้ ต้องสวยและรวยมาก Britney Spears จะมาตบเรียกสติให้ทุกคนเลิกมโนฝันหวานว่าจะได้สามีในฝันแบบหล่อล่ำมหาเศรษฐีได้แล้ว นาทีนี้ถ้าไม่หาเองแล้วใครจะให้ เนื้อหาของเพลงกระตุ้นให้สาวๆ ลุกขึ้นมาทำสิ่งต่างๆเพื่อตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายให้ได้บอดี้สุดฮอต หรือ การทำงานที่ทุ่มเทเต็มที่เพื่อได้จะได้มีเงินทองซื้อสิ่งของหรูหรา แล้วทุกอย่างที่ฝันไว้จะเป็นจริงแน่นอน

เนื้อเพลงสุดแซ่บ: “You wanna Lamborghini, Sip Martinis, Look hot in a bikini, You better work bitch!”

Hard Out Here – Lily Allen (2013)

เพลงนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเพลง “feminist anthem” ที่โดนใจเฟมินิสต์อย่างมากเพราะเนื้อหานั้นจิกกัดสังคมที่ตีค่าผู้หญิงด้วยกรอบของผู้ชายได้อย่างแสบสันต์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตาที่ต้องสวยงามเพื่อดึงดูดทางเพศ อาชีพการงานที่ถูกกดขี่ หรือทัศนคติทางเพศที่ผู้หญิงไม่สามารถแสดงออกได้ ซึ่งทันทีที่เพลงนี้เผยแพร่ออกมา เหล่าศิลปินหญิงชื่อดังต่างออกมาสนับสนุนเพลงนี้กันมากมายเช่น Adele, Ellie Goulding, Kesha, Charli XCX และ Pink

เนื้อเพลงสุดแซ่บ: “Forget your balls and grow a pair of tits, It’s hard, it’s hard, it’s hard out here for a bitch”

Writer: PUMPUI