เป็นเวิร์คกิ้งวูแมน บางครั้งก็เหนื่อยแสนเหนื่อย ไหนจะต้องทำงานไหนจะต้องจัดการชีวิตส่วนตัว แต่อย่าเพิ่งหมดกำลังใจไปหากมีเวลาว่างซักนิด เรามีหนังและซีรีส์ดีๆ มาแนะนำให้สาวเก่งทุกคนได้ชมผ่อนคลาย แถมแต่ละเรื่องยังมีแง่คิดดีๆให้เก็บไปปรับใช้กับการทำงานด้วยนะ
1. วิธีเรียนรู้จาก CEO สุดเจ๋ง – The Devil Wears Prada (2006)
สาวๆ First Jobber เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ ต้องดูเรื่องนี้ หนังฮิตของผู้กำกับ David Frankel ดัดแปลงมาจากนิยายขายดีของ Lauren Weisberger เรื่องราวของ Andrea (รับบทโดย Anne Hathaway) บัณฑิตสาวจบใหม่ไฟแรงได้เข้ามาทำงานเป็นผู้ช่วย ของ Miranda Priestly (รับบทโดย Meryl Streep) บรรณาธิการบริหารผู้ทรงอิทธิพลของนิตยสารแฟชั่นชื่อดัง(ที่ได้แรงบันดาลใจจาก Anna Wintour เจ้าแม่นิตยสาร Vogue มาแบบอย่าง) ซึ่งวันๆ Andrea ต้องทำงานรับคำสั่งชนิด Mission Impossible เช่นต้องไปหาหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ยังไม่วางจำหน่ายมาให้ลูกเจ้านายอ่านก่อนใครให้ได้แม้ภารกิจแต่ละอย่างจะยาก แต่ Andrea รับมือกับมันด้วยความพยายาม และเรียนรู้วิถีการทำงานอย่างมือโปรและทรงอำนาจจาก Miranda ทำให้ได้รู้ว่าโลกจริงของการทำงานไม่ใช่จะมานั่งคร่ำครวญและร้องไห้ประกาศว่าไม่ยุติธรรม ผู้หญิงเก่งๆ ต้องเรียนรู้ที่จะเก็บเกี่ยวประสบการณ์และนำมาปรับใช้เพิ่มมูลค่าให้กับตัวเอง และไม่กลัวที่จะออกไปหาที่ที่ใช่กับตัวเองมากกว่า
2. วิธีรับมือกับเจ้านายนักฉกไอเดีย – Working Girl (1988)
สิ่งหนึ่งที่คนทำงานไม่อยากจะเจอเลยก็คือเจ้านายประเภทเอาดีเข้าตัวเอง ฉกไอเดียลูกน้องเป็นของตัวเอง แต่หนัง Working Girl ของผู้กำกับ Mike Nichols ก็มีวิธีแก้เผ็ดแสบๆ คันๆ มาให้ดูเป็นตัวอย่าง หนังเล่าเรื่องราวของ Tess (รับบทโดย Melanie Griffith) เลขาสาว ที่วันๆก็ต้องทำงานจิปาถะให้กับหัวหน้าอย่าง Katharine (รับบทโดย Sigourney Weaver) ที่ Tess จับได้เอาทีหลังว่า Katharine เตรียมขโมยเอาไอเดียของเธอไปเป็นของตัวเองเพื่อนำเสนอกับเจ้านาย แต่โชคยังเข้าข้าง Tess เมื่อ Katharine ประสบอุบัติเหตุระหว่างเล่นสกี ทำให้ Tess ใช้จังหวะนี้ แอ๊บเนียนทำตัวเป็น Katharine ซะเลย ปรับลุคใหม่เป็นสาวสวยมือโปร แล้วใช้โอกาสนี้นำเสนอไอเดียของเธอต่อที่ประชุมด้วยตัวเองจนได้รับการยอมรับวิธีแก้เผ็ดเจ้านายนักฉกแบบนี้อาจจะมีแค่ในหนัง แต่สิ่งที่หนังฮิตในยุค 80s เรื่องนี้เป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ อย่างมากจนติดอันดับหนังดีสำหรับผู้หญิงทำงาน ก็เพราะว่าหนังส่งเสริมให้ผู้หญิงมีความมั่นใจในความสามารถของตัวเองและไม่ย่อท้อต่อนางมารร้ายในที่ทำงาน และหาลู่ทางให้ตัวเองได้เจิดจรัสจนได้
3. วิธีแบ่งเวลาให้กับครอบครัว – I Don’t Know How She Does It (2011)
สาวทำงานที่มีครอบครัวแล้วมักประสบปัญหาเวลาทำงานกับเวลาให้ที่บ้านตีกันวุ่นวาย จนบางครั้งอยากจะมีซัก 3 ร่าง ทั้งเลี้ยงลูก ไปทำงาน และสวีทกับสามี หนังเรื่องนี้สอนวิธีรับมือดีๆ ตามแบบ Kate Reddy (รับบทโดย Sarah Jessica Parker) ที่สาวๆ ทุกคนงงว่าเธอบาลานซ์ชีวิตได้ยังไง ทั้งงานเยอะ สามีไม่เข้าใจ ไปจนถึงติดเหาจากลูก สิ่งที่เธอทำคือ ทำ List เอาไว้ในใจถึงสิ่งที่จำเป็นต้องทำตามลำดับในแต่ละวัน เพื่อให้แก้ปัญหาแต่ละอย่างไปได้ตามลำดับโดยที่ไม่ชุลมุนวุ่นวาย แม้จะทำ List เอาไว้แล้วก็มีเป๋ๆ ไปบ้างเหมือนกันจากเหตุสุดวิสัย หรือปัจจัยที่เกินควบคุม เช่น ทำงานกับเจ้านายใกล้ชิดซะยิ่งกว่าสามีตัวเอง จนอีกฝ่ายแอบมีใจ แต่ในเคสนี้ สิ่งที่พึงต้องจำเอาไว้เลยว่าถึงจะบ้างานแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้วครอบครัวคือสิ่งที่ต้องใส่ใจมากที่สุด
4. วิธีประคับประคองชีวิตรัก จาก Sex and the City (ซีรีส์ และ หนังทั้ง 2 ภาค)
จากซีรีส์ที่เล่าเรื่อง 4 สาวเพื่อนรัก 4 สไตล์ ที่กลายมาเป็นไอคอนของเวิร์คกิ้งวูแมนในปัจจุบัน พวกเธอทั้งสวย และประสบความสำเร็จในแบบฉบับของตัวเอง จนกระทั่งถึงบทสรุปความรักในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ Sex and the City: The Movie (2008) ที่พูดถึงบทบาทใหญ่ในชีวิตก็คือการแต่งงาน ของ Carrie Bradshaw (Sarah Jessica Parker) แต่จะทำอย่างไรเมื่อเจ้าบ่าวไม่พร้อมและทิ้งกันในวันแต่งงาน สิ่งที่ต้องทำก็คือ “หลบรัก ไปพักร้อน” สาวเวิร์คกิ้งวูแมน ส่วนใหญ่มักจะลืมทุกทีว่ามีโควต้าวันหยุด การได้เปลี่ยนสถานที่ไปพักใจ พักงาน พักชีวิตรัก อาจจะทำให้ได้ทบทวนชีวิตของตัวเองได้ดีขึ้นอีกทั้งเปิดหูเปิดตาในสถานที่ใหม่ๆ และลองถามใจตัวเองดูว่ารักครั้งนี้จะยังคงไปต่อได้หรือเปล่า
5. วิธีรับมือกับโลกผู้ชายเป็นใหญ่ จาก Agent Carter (2015)
สาวๆ ที่เพลียกับการปฏิบัติอย่างไม่เท่าเทียมของผู้หญิงและผู้ชายในที่ทำงาน ต้องดูเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะย้อนไปในยุค 40s เล่าเรื่องราวของ Peggy Carter หลังจากการจากไปของคนรักอย่าง Captain America เธอทำงานในหน่วยข่าวกรอง SSR แต่ชีวิตของ Peggy ทว่าไม่มีเพื่อนร่วมงานผู้ชายคนไหนเห็นคุณค่า แถมยังกระแนะกระแหนว่าเธอเป็นเพียงหวานใจของวีรบุรุษ และใช้ให้เธอทำงานเอกสารจิปาถะ แต่ Peggy ก็ไม่ย่อท้อเธออกสืบเรื่องราวการคุกคามของวายร้ายจากรัสเซียด้วยตัวเอง และพิสูจน์ตนเองจนได้รับการยอมรับ แม้ว่าสุดท้ายแล้ว ความดีความชอบของเธอตกไปอยู่เพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ชายได้หน้าไปแทน แต่เธอก็ยืดอกอย่างเต็มภาคภูมิว่า เธอไม่ต้องให้ใครมาสรรเสริญเพราะว่าเธอรู้คุณค่าของตัวเอง
ซีรีสนี้กำลังเป็นที่กล่าวขวัญอย่างมากในฐานะผู้นำด้าน Feminist ในวงการโทรทัศน์และคำกล่าวของ Peggy ที่พูดว่า “I know my value” ก็กลายเป็นกระแสฮิตในโลกโซเชียล
Writer: PUMPUI
RECOMMENDED CONTENT
มาแรงสมการรอคอย สำหรับศิลปินหญิงยอดฟังสูงสุดอันดับ 1 มากความสามารถอย่าง “BOWKYLION” (โบกี้ไลอ้อน) หรือ “โบกี้ - พิชญ์สินี วีระสุทธิมาศ” จากสังกัดค่าย What The Duck (วอท เดอะ ดัก) ที่ประสบความสำเร็จด้วยผลงานเพลงคุณภาพมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “ทราบแล้วเปลี่ยน”, “บานปลาย”, “ซับ”, และเพลง “ยิ้มมา” ที่กวาดยอดวิวทะลุหลักล้านทุกเพลง กลับมาครั้งนี้ “BOWKYLION” (โบกี้ไลอ้อน) ตั้งใจพาทุกคนดำดิ่งไปกับเพลงใหม่ความหมายเศร้าอย่างเพลง “วาดไว้ (Recall)” เพลงเศร้าที่มีจุดเริ่มต้นจาก ‘ภาพวาด’ ที่ได้มาจากแฟนคลับ