เดือนนี้เตรียมตัวพบกับเทศกาลหนังระดับนานาชาติที่มีระยะเวลาจัดกันยาวนานที่สุดในประเทศไทย งานที่รวมเอาภาพยนตร์คุณภาพจากทั่วทุกมุมโลกมาฉาย กับ “World Film Festival of Bangkok” หรือเทศกาลภาพยนตร์โลกแห่งกรุงเทพ งานใหญ่ประจำปีของคนรักหนังในเมืองไทย ที่ครั้งนี้จัดกันเป็นครั้งที่ 11 แล้ว ให้การสนับสนุนโดยกระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่นและเอส เอฟ คอร์ปอเรชั่น
ภาพยนตร์ที่คัดเลือกมาฉายในงานนี้จะเน้นไปที่หนังนอกกระแสซะส่วนใหญ่ ด้วยเหตุที่ผู้จัดกล่าวว่า “เราไม่อยากให้คนดูหนังบ้านเราถูกหนัง Hollywood กรอบเอาไว้ เพราะมันจะทำให้วงการภาพยนตร์โตได้ช้า พื้นที่ตรงนี้จึงเปิดโอกาสให้คนทำหนัง Indie ทั้งหลายได้โชว์ฝีมือและแลกเปลี่ยนมุมมองกันและกัน” ซึ่งในปี 2556 นี้การคัดเลือกหนังเข้าฉายเทศกาลเป็นไปอย่างเข้มข้น เพราะมีผู้ส่งหนังเข้ามากันทั้งในและนอกประเทศรวมแล้วทั้งสิ้นกว่า 800 เรื่อง! คัดระดับหัวกะทิเน้นๆมาฉายทั้งหมดจำนวน 60 เรื่อง (List ของหนังทั้งหมดสามารถดูได้ที่ด้านล่าง) เอาแค่แถบเอเชียบ้านเราในหมวด “Asian Contemporary” หนังที่มีเอกลักษณ์ประจำตัวอันน่าค้นหาไม่เหมือนใครก็ยกขบวนกันมาเพียบแล้ว มีหนังจากประเทศไทยเราอยู่ในหมวดนี้ทั้งหมด 5 เรื่อง ที่น่าจับตามองมากๆคือเรื่อง “The Isthmus” ของ โสภาวรรณ บุญนิมิตร หนังที่ว่าด้วยเรื่องของความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ตัวเอกต้องเผชิญ เป็นหนังไทยที่เล่าเรื่องโดยใช้ภาษาพม่าเกือบทั้งเรื่อง และหนึ่งในนั้นยังมี “ตั้งวง” ของผู้กำกับ คงเดช จาตุรันต์รัศมี ที่เพิ่งเข้าฉายในบ้านเราเมื่อสองสามเดือนที่ผ่านมารวมอยู่ด้วย นอกจากไทยเราแล้วยังมีหนังที่น่าสนใจจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งหลายมากมาย อย่างเช่น ไต้หวัน ผลงานของผู้กำกับที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งในแถบเอเชียตอนนี้ “Tsai Ming Liang” ยกมาฉายให้ชมกันแบบเต็มอิ่มมีเรื่อง “Stray Dogs” ผลงานชิ้นเอกของเขาด้วย และที่น่าดูไม่แพ้กันคือหนังจากประเทศอินเดีย โผล่มาเรื่องเดียวเลยคือ “A Silent Way” ที่พูดถึงก็เพราะว่าเป็นหนึ่งในสองเรื่องของงานนี้ที่ท่ามกลางโลกดิจิตอลแบบนี้พวกเขายังคงเลือกที่จะใช้ฟิล์มขนาด 35mm ในการถ่ายทำอยู่ อีกเรื่องก็คือ The Moving Creature จากประเทศ Brazil
ไหนๆเราก็พูดถึงอเมริกาใต้กันแล้ว กระโดดมาฝั่งละตินกันบ้างดีกว่า มีหนังที่น่าสนใจหยิบขึ้นมาแนะนำคือเรื่อง”Workers” หนังจากประเทศเม็กซิโกที่พูดถึงเรื่องราวเศรษฐีคนนึงก่อนตายมอบมรดกทั้งหมดของเขาให้กับคนงานในบ้าน โดยมีข้อแม้อย่างนึงก็คือ ต้องดูแลหมาสุดรักของเขาอย่างดีที่สุด แค่ประเด็นก็น่าสนใจแล้วจริงๆคงถูกใจคอหนังทั้งหลายที่ชื่นชอบความสดใหม่สไตล์ละติน หรือถ้าใครยังคงติดอยู่กับสไตล์หนังฝั่งยุโรปอเมริกาก็วางใจได้เลยเพราะปีนี้มีหนังจากแถบนั้นมาให้ชมเหมือนกัน เอาแค่ฝรั่งเศสก็มากันแล้ว 4 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือ “Stranger By The Lake” หนังรักแบบชายรักชายที่มีดีกรีฉายระดับเทศกาลหนังเมืองคานส์มาแล้ว และก็กำลังเป็นที่พูดถึงกันในแวดวงตอนนี้เป็นอย่างมาก ส่วนฝั่งอเมริกันก็มีหลุดมาเรื่องเดียวเดี่ยวๆเลยคือ Synecdoche, New York” หนังแปลกเนื้อหา Surreal ของผู้กำกับ “Charlie Kaufman” ผู้เขียนบทหนังดังเรื่อง John Malkovich (เรื่องนั้นก็ประหลาดชวนปวดหัวเหมือนกัน) แถมในเรื่องนี้เขาได้ดาราใหญ่อย่าง Philip Seymour Hoffman มาโชว์ฝีมือด้วย ซึ่งตอนนี้ถือเป็นหนังนอกกระแสชื่อต้นๆของปีที่กำลังไปไล่กวาดรางวัลจากเทศกาลหนังต่างๆมานักต่อนัก
พูดถึงไฮไลท์หลักของงาน หนังเปิดเทศกาลปีนี้คือหนังน่ารักๆจากออสเตรเลียที่พูดถึงเรื่องราวชีวิตชาวเขาในประเทศลาวเรื่อง The Rocket ผิดจากทุกๆปีที่หนังเปิดเป็นหนังไทยมาตลอด คุณ Victor (Kriengsak Silakong) ผู้อำนวยการของเทศกาลนี้ตั้งแต่ครั้งแรกให้เหตุผลว่า “หลังจากที่ได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วเราก็รู้สึกเลยว่า นี่แหละคือหนังเปิดของเทศกาลปีนี้ มันเป็นหนังที่ดูแล้วยิ้มได้ ซึ่งการเป็นหนังเปิดเทศกาลไม่จำเป็นต้องเป็นหนังไทยอย่างเดียว นี่ถือเป็นการผสมผสานวัฒนธรรมกันเพราะหนังเรื่องนี้ใช้ภาษาลาวทั้งเรื่อง” แถมในหนังเรื่องนี้ได้คุณเทพ โพธิ์งาม ดาวตลกรุ่นเก๋าร่วมแสดงอยู่ด้วย อีกทั้งยังเป็นหนังที่ตระเวนฉายตามเทศกาลต่างๆและได้เสียงตอบรับในแง่ดีทุกครั้ง จนถึงขั้นเป็นตัวแทนกำลังลุ้นเข้าชิง Oscar ตัวแทนจากออสเตรเลียในปีนี้อีกด้วย ส่วนหนังปิดเป็นหนังสารคดีเรื่อง “By The River” ผลงานจากช่อง ThaiPBS ที่นอกจากเรื่องนี้แล้วในงานยังมีหนังหมวดสารคดีและหนังสั้นจากประเทศต่างๆมาร่วมฉายอีกมากมาย และพิเศษสุดๆปีนี้มีการแจกรางวัล “Lotus Award” ให้กับคุณจารุณี สุขสวัสดิ์ ดาวค้างฟ้าแห่งวงการหนังไทยที่จะกี่ปีๆก็ยังสวยเหมือนเดิม แถมเอาหนังเรื่องดังของเธอคือ “บ้านทรายทอง” กับ “พจมาน สว่างวงศ์” มาฉายให้ชมกันในโรงหนังอีกครั้งด้วย เป็นโอกาสที่หาดูได้ยากจริงๆ
จากทั้งหมดที่พูดมาคงเห็นแล้วว่าบ้านเราก็มีเทศกาลหนังประจำเมืองกรุงเทพที่จัดได้ไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว ขนหนังคุณภาพระดับโลกมากมายมาฉายให้เราดูกันถึงที่ใกล้บ้าน (ตารางเวลาฉายหนังแต่ละเรื่องสามารถเข้าไปโหลดดูได้ที่ http://www.worldfilmbkk.com/news/87/PROGRAMME:-11th-WORLD-FILM-FESTIVAL-OF-BANGKOK.html) หนังจะเริ่มฉายตั้งแต่วันที่ 15- 24 พฤศจิกายนที่โรงหนัง SFW ห้างเซนทรัลเวิล์ด ราคาตั๋วเข้าชมเรื่องละ 120 บาท สามารถซื้อเป็น Package แบบ 5 เรื่อง 500 บาทได้ (ถือว่าถูกมากๆ) โอกาสแบบนี้นานปีมีหน ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นคนชอบดูหนังก็เตรียมเช็คตารางเรื่องที่อยากดูแล้วทำตัวให้ว่างไว้ได้เลย รับรองว่าประสบการณ์ดูหนังโรงครั้งนี้ต้องคุ้มแน่นอน!
RECOMMENDED CONTENT
เสนอโปรโมชั่นพิเศษท่องเที่ยวภาคใต้แบบโดนใจ พร้อมชวนออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ กับภาคใต้ช่วงหน้าฝน พร้อมช่วยกันเปิดมุมมองรีวิวเมืองรองปักษ์ใต้ ชิงเงินรางวัลกว่า 2 แสนบาท