fbpx

CONTACT US

DOODDOT VIDEOS

#EYESSEEYOU — ติ่งให้สุด! …ไปหาป้าลายจุด Yayoi Kusama ถึงบ้านเกิด
date : 14.มิถุนายน.2018 tag :

จนถึงตอนนี้เชื่อว่าคุณผู้อ่านคงรู้จัก ยาโยอิ คุซามะ (Yayoi Kusama) กันดีอยู่แล้ว แต่ถ้าให้แนะนำอย่างย่นย่อเธอคือศิลปินหญิงชาวญี่ปุ่นวัย 89 สุดเปรี้ยวที่เรานิยมเรียกกันว่า ‘ป้าลายจุด’ เพราะลายเซ็นเด่นชัดในงานของเธอคือลาย polka dot สีสันแสบทรวง นอกจากนั้นที่เราคุ้นตากันก็คือ ประติมากรรมฟักทอง งานอินสตอลเลชั่นห้องกระจก และจิตรกรรมลวดลายประหลาดละเอียดยิบ เรื่องน่าทึ่งคือคุซามะมีอาการเห็นภาพหลอนตั้งแต่เด็ก เธอตัดสินใจเช็กอินตัวเองเข้าโรงพยาบาลจิตเวชในช่วงทศวรรษ 70 แต่เธอไม่เคยหยุดสร้างผลงาน จนถึงทุกวันนี้เธอก็ยังวาดรูปอยู่!

เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาชื่อของคุซามะเป็นที่พูดถึงในบ้านเราอีกครั้ง เพราะเธอเป็นหนึ่งในศิลปินที่จะมีผลงานมาแสดงในงาน Bangkok Art Biennale 2018 (แต่ได้ข่าวว่ามาแค่ชิ้นเดียวนะจ๊ะ ไม่ได้ยกโขยงมาแบบนิทรรศการที่สิงคโปร์) ส่วนคอลัมน์ #EYESSEEYOU เดือนนี้ขอพาไปชมนิทรรศการ All About My Love ที่เมืองมัตสึโมโต้ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งโฆษณาไว้เบอร์แรงว่าเป็นนิทรรศการครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของคุซามะในญี่ปุ่น เพราะมัตสึโมโต้คือบ้านเกิดของเธอ

แต่ก่อนจะไปยังมัตสึโมโต้ ขออุ่นเครื่องด้วยการพาไป Yayoi Kusama Museum ที่โตเกียวกันก่อน มิวเซียมแห่งนี้เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคม 2017 นี่เอง เราขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าอย่าคาดหวังจนเกินไปกับที่นี่ เพราะมันขนาดเล็กมาก ไม่ค่อยมีงานแกรนด์ๆ ของคุณป้าเท่าไร ทว่าความกิ๊บเก๋ของการได้มาเยือนที่นี่คือ การใช้ระบบจองตั๋วล่วงหน้าและจำกัดผู้ชมในแต่ละรอบ ทำให้ตั๋วหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นใครคว้าตั๋วมาได้ก็สามารถเอาไปอวดชาวโลกได้ 

สำหรับ Yayoi Kusama Museum เดินทางได้ง่ายดายด้วยการไปลงที่สถานี Ushigome Yanagicho หรือ Waseda พร้อมกับการเดินเท้าอีกเล็กน้อย ตัวมิวเซียมจะมีทั้งหมด 5 ชั้นด้วยกัน ตอนที่ผู้เขียนไปเยือนทางพิพิธภัณฑ์กำลังแสดงงานชุด ‘Here, Now, I have Reached the Grandest Start of My Life’ โดยชั้นสองจะเป็นภาพวาดในช่วงทศวรรษ 50 ที่เธอยังไม่ได้อะไรกับลายจุดนัก แต่เราก็เริ่มเห็นสไตล์การใช้แพทเทิร์นซ้ำๆ ในงานของเธอ

ชั้น 3 และ 4 จะเป็นงานชุด ‘My Eternal Soul ภาพวาดนามธรรมที่เน้นใช้สีสันจัดจ้านและมีขนาดใหญ่ราว 2×2 เมตร คุซามะเริ่มวาดงานเซ็ตนี้มาตั้งแต่ปี 2009 ว่ากันว่าปัจจุบันเธอวาดไปราว 500 รูปแล้ว (กรี๊ดดด…) ส่วนชั้น 5 จะเป็นงานอินสตอลเลชั่นที่เล่นกับกระจกและฟักทอง ปิดท้ายด้วยชั้นดาดฟ้าที่เป็นมีรูปปั้นฟักทองขนาดใหญ่และหลังคาเปิดโล่งเพื่อรับลมและแสงแดด 

ถ้าให้ผู้เขียนฟันธง คงต้องบอกว่า Yayoi Kusama Museum เหมาะสำหรับแฟนพันธุ์แท้ของป้าแกเท่านั้น ยิ่งถ้าคุณเคยดูนิทรรศการเต็มรูปแบบของป้ามาแล้ว (อย่างเช่นงาน ‘Life is the Heart of a Rainbow‘ เมื่อปี 2017 ณ National Gallery Singapore ที่ชาวไทยแห่ไปดูกันมากมาย) คุณอาจจะเฟลเล็กน้อยกับมิวเซียมแห่งนี้ แต่ถ้ามีเวลาว่าง (และกดตั๋วทัน) การแวะมาก็ไม่เสียหายจ้า

ดูรายละเอียดของ Yayoi Kusama Museum (โตเกียว) ได้ที่ : yayoikusamamuseum.jp

จานออเดิร์ฟผ่านไปแล้วขอเข้าสู่เมนคอร์สเลยนะครับ นั่นคืองาน All About My Love จัดที่ Matsumoto City Museum of Art สำหรับเมืองมัตสึโมโต้นั้นอยู่ในจังหวัดนากาโนะ มีของขึ้นชื่อคือปราสาท Matsumoto Castle ถ้าตั้งต้นจากโตเกียวใช้เวลานั่งรถไฟประมาณสามชั่วโมง เนื่องจากใช้เวลาเดินทางนาน ผู้เขียนขอแนะนำว่าให้ไปดูงานในวันเสาร์ที่มิวเซียมปิดทำการเวลา 19.00 ส่วนวันอื่นๆ จะปิดตอน 17.00 จ้า

Matsumoto City Museum of Art ใช้เวลาเดินจากสถานี Matsumoto ประมาณ 15 นาที ความตื่นเต้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ยังไม่เข้าไปดูงาน อาคารของมิวเซียมถูกตกแต่งด้วยลายจุดทั้งหลัง ส่วนบริเวณรอบมิวเซียมก็มีประติมากรรมดอกไม้และฟักทองกระทั่งเก้าอี้หรือตู้ขายน้ำยังเป็นลายจุดไปเสียหมด นี่ยังไม่ทันเข้างานก็ถ่ายรูปไปหลายสิบรูปแล้ว 

ส่วนตัวงานจะแบ่งเป็นสองห้องใหญ่ ด้านในห้ามถ่ายรูปตามสไตล์ญี่ปุ่น (ยกเว้นบางห้องที่เขาติดป้ายว่าถ่ายได้) ช่วงแรกจะเอางานไฮไลต์ขึ้นมาก่อนเลย อันที่ผู้เขียนประทับใจมากคืองานชื่อ ‘I’m Here, but Nothing‘ จะเป็นห้องมืดๆ ที่มีเฟอร์นิเจอร์โต๊ะเก้าอี้เตียงและทั่วห้องถูกติดด้วยสติกเกอร์ลายจุดสะท้อนแสง เคยเห็นงานชิ้นนี้ตามอินเทอร์เน็ตบ่อยมากพอได้มาเห็นของจริงก็ปลื้มปริ่มฟินสุดมาก 

หลังจากนั้นจะเป็นการไล่เรียงงานของคุซามะตามลำดับเวลา ตั้งแต่ตอนที่เธอยังอยู่ที่มัตสึโมโต้ จนย้ายไปนิวยอร์ก และกลับมาญี่ปุ่นในที่สุด ด้วยความที่ผู้เขียนเคยดูนิทรรศการของคุณป้ามาแล้วหลายครั้งตามประเทศอื่นๆ เลยอาจจะไม่ได้ตื่นเต้นมากนัก เพราะงานของเธอก็จะวนเวียนอยู่กับลายจุด กระจก และฟักทอง อย่างไรก็ดีผู้เขียนได้พบงานอินสตอลเลชั่นหลายชิ้นที่ไม่เคยดูมาก่อน เช่น ‘Aching Chandelier‘ โคมไฟระย้ากับกระจกกล หรือ ‘Ladder to Heaven‘ หลอดไฟที่ทำเป็นรูปบันไดลิงแนวดิ่ง มีกระจกอยู่ตรงเพดานและพื้นจนหลอกตาราวกับบันไดนี้ยาวไม่สิ้นสุด งานเหล่านี้ทำให้ผู้เขียนตระหนักว่าจักรวาลผลงานของคุซามะนั้นช่างกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน

โซนสุดท้ายจะเป็นรวมภาพวาดชุด ‘My Eternal Soul‘ ด้วยความที่ภาพมีขนาดใหญ่มาก การเห็นภาพเหล่านี้เรียงรายในห้องใหญ่โตก็ทำให้อดทึ่งไม่ได้ว่าทำไมผู้หญิงอายุเฉียดเก้าสิบถึงมีพลังมหาศาลขนาดนี้ แต่แน่นอนว่านิทรรศการยังไม่จบสมบูรณ์ถ้าไม่ผ่านด่านบอสใหญ่อย่างโซนขายของที่ระลึก ต้องเตือนไว้ก่อนเลยว่ามีสารพัดมากมายตั้งแต่สมุดโน้ต แก้วน้ำ แฟ้ม กระเป๋าผ้า เครื่องเขียน ตุ๊กตา ถ้าไม่ครองสติให้ดีอาจล้มละลายได้

โดยรวมแล้วผู้เขียนไม่ได้รู้สึกว้าวกับงาน ‘All About My Love‘ เท่าที่หวังไว้ อาจเพราะเคยดูนิทรรศการของป้าที่อลังการกว่านี้ (เช่นงาน ‘In Infinity‘ ที่ Helsinki Art Museum เมื่อปี 2016 ที่มีงานอินสตอลเลชั่นขนาดใหญ่หลายชิ้น) อย่างไรก็ตามจุดที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษคือตัวนิทรรศการไม่ได้อยู่แค่ในมิวเซียม แต่มันคือเมืองมัตสึโมโต้ทั้งเมือง ไม่ว่าจะสถานีรถไฟ ทางเดิน หรือรถเมล์ก็ล้วนตกแต่งเป็นลายจุดทั้งนั้น นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารหลายแห่งที่มีเมนูพิเศษเป็นอาหารที่ตกแต่งเป็นลายจุดด้วย

นี่เป็นตัวอย่างที่ดีของประโยคที่ว่าโลกของศิลปะไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดอยู่แค่ในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น

นิทรรศการ All About My Love
จัดแสดงถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2018

ดูรายละเอียดที่
kusama2018.com/english

Writer : คันฉัตร รังษีกาญจน์ส่อง