คงไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงหรือต้องสรรหาหลักฐานอะไรมากมายมาพิสูจน์ว่าทำไมกระเป๋า Chanel นั้นถึงมีมูลค่ามหาศาลเมื่อเวลาผ่านไป เขาบอกกันว่ายิ่งนาน กระเป๋ารุ่นนี้ก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่าตัวเอง โดยบางใบถึงกับเพิ่มเกือบเท่าตัว ต่างกับการถือครองทรัพย์สมบัติในรูปแบบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ Mercedes CLS ที่ขึ้นชื่อว่ารถ ก็ลดกันระนาวถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ดัชนี Dow Jones และ S&P มีตัวเลขสูงขึ้น 18 และ 16 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ส่วน New York Taxi Medallions ที่ครองแชมป์ในฐานะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ารูปแบบหนึ่งก็มีตัวเลขสูงขึ้นเพียง 28.4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับ Chanel ส่วนแก้วแหวนเงินทองอื่นๆ ก็คงไม่ต้องพูดถึง ไม่มีการลงทุนใดๆ เทียบ Chanel ได้ติด ในปี 2010 กระเป๋า Chanel มีราคาอยู่ที่ 2,650 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เพียงชั่วพริบตา ตัวเลขก็พุ่งสูงขึ้นถึง 84 เปอร์เซ็นต์ มูลค่าของกระเป๋าใบเดียวกันนั้นถูกปรับสูงขึ้นจนมีราคา 4,900 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 2 ปี
ต่อไปนี้คือเคล็ดลับการเลือกซื้อกระเป๋า Chanel สำหรับคนที่คิดว่าจะลงทุนซื้อกระเป๋าดีๆ สักใบมาใช้ และยังสามารถขายต่อได้ในราคาที่ดี (มาก) หรือคิดวางแผนจะส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานให้ได้ใช้กันต่อไป
หากคิดจะซื้อกระเป๋า Chanel สักใบหนึ่งมาประดับตัวเอง กระเป๋ารุ่น Classic คือการลงทุนที่ปลอดภัยและเสี่ยงน้อยที่สุด โดยคุณจะได้กำไรแน่ๆ จากการเสียเงินในครั้งนี้ แต่หากคุณมีสายตาหลักแหลมทางแฟชั่น แนะนำให้รีบคว้ากระเป๋าคอลเล็กชั่น Runway ไว้ก่อนเลย เพราะกระเป๋าส่วนใหญ่จะขายหมดในระยะเวลาอันสั้นเท่านั้น อย่างกระเป๋า ที่ในร้านขายในราคา 4,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ถูกกวาดเกลี้ยงจนหมด แต่กลับไปโผล่ใน E-Bay หรือเว็บขายต่ออื่นๆ ในราคาที่สูงขึ้นราวๆ 2 เท่า โดยราคาจะอยู่ตั้งแต่ 9,000 ถึง 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เลยทีเดียว ส่วนใครที่ตั้งใจจะซื้อมาเก็งกำไรจริงๆ ให้ซื้อสีแปลกๆ อย่างสีสด หรือสีหายาก ท่องไว้ว่า ยิ่งหายาก ยิ่งกำไรดี การหายากนั้นยังรวมไปถึงดีไซน์ด้วย เชื่อไหมว่ากระเป๋า Chanel Yo Yo คอลเล็กชั่นปี 2012 นั้นหายากสุดๆ แต่มีเว็บไซต์หนึ่งได้มันมาเลยจัดการวางขายต่อทันที และกระเป๋าใบนั้นก็ถูกเคาะราคาขายต่อไปในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง แต่สำหรับกระเป๋า Boy Bag นั้นขอให้ชะลอไว้ก่อน เพราะตอนนี้ยังถือว่าหาง่ายอยู่ อีกอย่าง Chanel เองก็ยังทำรุ่นนี้ออกมาหลายแบบหลากรุ่นและหลายสี รุ่นนี้น่าจะผลิตอีกนาน ไม่น่าหายไปง่ายๆ เพราะถือว่าเป็นอีกรุ่นที่เป็นคอลเล็กชั่นทำเงินให้ Chanel ในปัจจุบัน
ส่วนรุ่นเก่าขึ้นหิ้งอย่างรุ่นวินเทจทั้งหลาย ใครดวงดีได้เจอ ขอให้รับคว้าเอาไว้อย่างด่วนๆ เช่นกัน โดยเฉพาะรุ่นที่ผลิตในปี 1920 – 1930 ตอนนี้ราคาของกระเป๋าปีที่อยู่ระหว่างนี้น่าจะอยู่ประมาณ 10,000 ++ ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้ว ส่วนรุ่นปี 40 ก็ด้วย แต่ไม่ค่อยมีใครได้เจอ เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลก Chanel ไม่ได้ผลิตกระเป๋าออกมา แต่ก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าแล้วที่ถูกผลิตในสหรัฐอเมริกาล่ะ นับว่าเป็น Chanel ไหม ซึ่งท้ายที่สุดพอขึ้นโรงขึ้นศาลเสร็จสรรพก็ได้ข้อสรุปว่า กระเป๋ารุ่นที่ผลิตในอเมริกาไม่นับว่าเป็นของ Chanel เพราะทางแบรนด์ไม่ได้สั่งให้ผลิต ส่วนกระเป๋ารุ่นหลังจากนั้นจะเป็นกระเป๋าที่ตัว Coco Chanel ผลิตออกมาเองในช่วงท้ายๆ ของชีวิต กระเป๋ารุ่นระหว่าง 1950 – 1970 ก็หายากและมีมูลค่าสูงเช่นกัน ตอนนี้น่าจะสูงกว่า 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าไปแล้ว
Writer: JP
RECOMMENDED CONTENT
ทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดบ้านให้เราเข้าไปเยี่ยมชม Work Space ที่เชื่อในแนวคิด Open Innovation ซึ่งสนับสนุนการทำงานในโลกยุคใหม่ที่ไม่ต้องมีออฟฟิศประจำ แต่ทุกคนสามารถทำงานได้อย่างอิสระใน Sharing Space ที่มีหลากหลายองค์กรอยู่ร่วมกัน เพื่อกระตุ้นให้เกิดบทสนทนา เกิดการแลกเปลี่ยนไอเดียใหม่ๆ ช่วยสร้างคอมมิวนิตี้ของคนทำงานเข้าด้วยกัน